Last updated: 21 Jun 2022 | 1750 Views |
แนวคิดของการเสริมแรงเชิงบวกหรือ Positive Reinforcement มีกันมานานแล้วและถูกพูดถึงกันอยู่อย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายสิบปี และสิ่งที่ยังทำให้แนวคิดแบบ Positive Reinforcement หรือการเสริมแรงเชิงบวก ยังสำคัญอยู่ก็เพราะ
“ถ้าเราให้รางวัลกับพฤติกรรมใด แนวโน้มที่พฤติกรรมนั้นจะเกิดซ้ำอีกครั้งก็จะมีสูงขึ้น” หรือพูดง่ายๆว่า หากเราอยากจะสนับสนุนให้การกระทำแบบไหนเกิดขึ้นบ่อยๆ เราก็ควรจะให้รางวัลกับอีกฝ่ายเวลาเขาแสดงออกถึงการกระทำนั้น ดังนั้นหลายครั้ง Positive Reinforcement ก็เลยถูกใช้แทนคำว่า “รางวัล”
ในฐานะผู้นำหากเราต้องการสนับสนุนคนในทีมให้ทำงานอย่างเต็มที่ เราจะต้องพยายามสร้าง Positive Reinforcement ให้กับคนในทีม และหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่า การให้ Positive reinforcement จำเป็นต้องเป็นรูปแบบทางด้านการเงินหรือ Monetary เท่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่จำเป็นเลย เพราะเราสามารถใส่การเสริมแรงเชิงบวกในรูปแบบอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการชมอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ หรือการยอมรับความคิดเห็นและทำตามสิ่งที่ลูกทีมขอมา
ในบางช่วงเวลาที่เหมาะสม หัวหน้าอาจจะอนุญาตให้ลูกทีมได้ขยายเวลากินข้าวกลางวันเพิ่มขึ้นอีก 20 นาทีในวันพิเศษหลังจากทำงานบางงานสำเร็จ
การใส่ Positive Reinforcement มีเป้าหมายในการสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่มีความสุข คำนึงถึง wellbeing ของพนักงาน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็รู้ค่ะว่า ผลประกอบการที่เป็นตัวเลขของบริษัท มีความสัมพันธ์กับ Engagement และความสุขของพนักงานโดยตรง